Google Map ผู้ช่วยที่ดีที่สุดในการเดินทาง

Google Map

ในอดีตนั้นการเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างลำบาก  เนื่องจากทางนั้นยังเป็นดินลูกรัง หรืออาจจะแย่กว่านั้นสถานที่บางที่อาจจะไม่มีถนนให้รถยนต์สามารถวิ่งเข้าไปเลยก็ได้ แต่ในปัจจุบันนี้ การพัฒนาในเรื่องของการคมนาคมได้มีเพิ่มมากขึ้น และได้มีถนนเพิ่มขึ้นมากกว่ามาก่อน และเมื่อการคมนาคมนั้นดีขึ้น การเดินทางของผู้คนย่อมมีมากขึ้นไปด้วย และการเดินทางนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อให้เราไปถึงเป้าหมายได้อย่างถูกต้องนั้นก็คือแผนที่ แต่แผนที่นั้น เป็นเครื่องมือที่ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับการเดินทางบนถนน จึงต้องมีเครื่องมือใหม่ที่มาซัพพอร์ต ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนนั่นเอง และสิ่งๆนั้นก็คือ แอพพลิเคชั่นแผนที่ออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันนี้แอพพลิเคชั่นแผนที่ออนไลน์นั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Nostra Map Thailand, Sygic, Here we go หรือจะเป็น Path Guide และจะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ แอพพลิเคชั่น Google Map นั่นเอง ซึ่ง Google Map เป็นแอพพลิเคชั่นในการค้นหาเส้นทางที่ฮิตเป็นอย่างมาก ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงแอพพลิเคชั่น Google Map กัน และแอพนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ตาม gclub ไปดูกันเลย

Google Map คืออะไร

Google Map เป็นแอพพลิเคชั่นที่ถูกคิดค้นโดย Google โดย Google แบบนั้นจะเป็นการนำเทคโนโลยีมาผนวกกับแผนที่ เพื่อให้ได้แผนที่ที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถใช้งานได้ง่ายนั่นเอง ทั้งนี้แอพพลิเคชั่น Google Map ยังสร้างขึ้นมาเพื่อให้บริการในการค้นหาข้อมูล, ตำแหน่งดาวเทียม หรือ ชื่อตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ ด้วย นอกจากนี้ Google Map สามารถใช้เป็นเครื่องนำทาง เพื่อพาเราไปยังตำแหน่งหรือสถานที่ ที่เราไม่เคยไปได้อีกด้วย โดย Google Map นั้นสามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ pc และโทรศัพท์มือถือเลย เมื่อเรารู้แล้วว่า Google Map เป็นอย่างไร ต่อไป gclub จะพามาดูวิธีการทำงานของ Google Map กัน

การทำงานของ Google Map เป็นอย่างไร

วิธีการทำงานของ Google Map นั้นจะใช้ในการระบุตำแหน่งบนแผนที่ และเป็นเครื่องมือนำทาง โดยระบบของ Google Map นั้นจะใช้วิธีการวิเคราะห์ตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้งาน โดยกระบวนการการวิเคราะห์นั้นจะทำผ่านระบบเครือข่ายที่ผู้ใช้งานกำลังใช้อยู่ เช่น เครือข่ายอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้งาน, ตำแหน่งดาวเทียมหรือ GPS และ เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ไร้สายเป็นต้น และเมื่อผู้ใช้งานได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ตบ้านหรือ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆแล้ว โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตก็จะสามารถระบุได้ว่าสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ผู้ใช้ใช้นั้นอยู่ตำแหน่งใด ส่วนระบบ GPS จะเป็นการรับสัญญาณจากดาวเทียมที่กำลังโคจรอยู่รอบโลก ซึ่งอาจจะใช้ดาวเทียมถึง 3 ตัวเลยในการระบุตำแหน่งของผู้ใช้งาน โดยสาเหตุที่ใช้ดาวเทียมถึง 3 ตัวนั้น จะเป็นการป้องกันปัญหานั่นเอง เพราะหากดาวเทียมดวงใดดวงหนึ่งเกิดเสีย หรือใช้การไม่ได้ ก็จะมีดาวเทียมอีกหนึ่งตัวที่สามารถทำหน้าที่นั้นแทน ทั้งนี้ การใช้ดาวเทียมหลายตัวยังเป็นการเพิ่มความแม่นยำในการระบุตำแหน่งอีกด้วย

การรวบรวมข้อมูลของ Google Map

Map Parters

ขั้นตอนแรก Google ได้ขอความร่วมมือจากบริษัทและองค์กรที่ดูแลข้อมูลที่น่าเชื่อถือจากหลายหลายภาคส่วน ตั้งแต่องค์กรระดับตำบลไปจนถึงองค์กรระดับภาครัฐ  ให้ได้ข้อมูลที่หลากหลายนั่นเอง โครงการที่ได้ทำร่วมกับบริษัทเหล่านี้เรียกว่า Base Map Parter Program นั่นเอง

Street View

ต่อมาเป็น street view ที่เป็นเส้นทางบนท้องถนนของ Google นั่นเอง การเก็บข้อมูลของ street view นั้น จะเก็บโดยการขับรถยนต์ที่มีกล้องติดอยู่บนหลังคา พี่จะวิ่งไปตามถนนและซอยต่างๆ โดยทาง Google จะใช้กล้องตัวนี้ในการเก็บภาพสถานที่ต่างๆ แบบ 360 องศาเลย เพื่อเป็นการจำลองสถานที่จริงตามที่รถยนต์นั้นไปเข้าเก็บภาพมานั่นเอง

Stallites

หากคุณเคยใช้ Google Maps คุณจะสังเกตได้ว่านอกจากการแสดงผลแบบธรรมดานั้นแล้ว ยังมีการแสดงผลแบบภาพถ่ายดาวเทียมหรือ Stallites อีกด้วย โดยการแสดงผลแบบ Stallites นั้นจะเป็นการแสดงผลจากภาพถ่ายคุณภาพสูงที่ส่งตรงมาจากดาวเทียม ที่โคจรอยู่รอบโลก ซึ่งจะสามารถมองรายละเอียดบนโลกได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็น สภาพภูมิประเทศ, ภูเขา, แม่น้ำ, พื้นที่สูงต่ำ หรือจะเป็นเขตเมือง ทั้งนี้ยังสามารถมองเห็นสิ่งก่อสร้างต่างๆ ได้อีกด้วย

Location Services

ระบบในการบริการตำแหน่งนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ GPS เพียงอย่างเดียวที่จะบอกตำแหน่งแล้วกูพาคุณไปยังจุดหมายได้ แต่ยังมีข้อมูลที่ได้รับจากกลุ่มใช้งานหรือ Location Services เพราะข้อมูลจากกลุ่มการใช้งานนั้นสามารถนำไปวิเคราะห์ในรูปแบบของ Crowdsouring ระดับ Micro และจะได้เป็นข้อมูลแบบ Street-to-Street นั่นเอง

Lacal Guides

การใช้งาน Google Map นั้นถือว่าเป็นการให้ข้อมูลกับทาง Google อีกหนึ่งรูปแบบ เนื่องจากการใช้ในแต่ละครั้งจะสามารถนำไปวิเคราะห์ แล้วเกิดเป็นฟีเจอร์ Local Guides ได้ โดยจะคล้ายกับแอพพลิเคชั่น Foursquare เอาไว้ใช้เช็กอินในสถานที่ที่ไปหรือเอาไว้รีวิวสถานที่นั่นเอง

ข้อดีของ Google Map

  • สะดวก ใช้งานง่าย เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Google Map
  • สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android
  • ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ
  • สามารถคำนวณเวลาในการเดินทางได้
  • มี Local Guides ในการดูรีวิวสถานที่
  • มีการแสดงผลภาพถ่ายดาวเทียม